การก่อสร้างรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ๆ ส่งผลให้ราคาที่ดินขยับแรงตามช่วงจังหวะความก้าวหน้าการก่อสร้าง ซึ่งมี 3-4 ช่วงที่เด่นชัด ตั้งแต่มีกระแสข่าววันที่อนุมัติโครงการตอกเข็ม ลงมือก่อสร้าง ตลอดจนช่วงโครงการก้าวหน้าเกือบแล้วเสร็จ หากมีความเคลื่อนไหวซื้อขายที่ดินพัฒนาโครงการล้อไปกับการก่อสร้าง การแย่งชิงทำเลด้วยแล้วมูลค่าที่ดินบริเวณนั้นจะทะยานจนทะลุจุดเดือด
อย่างไรก็ตาม เมื่อรถไฟฟ้าใกล้เสร็จ ความแพงอาจลดน้อยถอยลง เนื่องจาก 1. ราคาขยับจนทะลุเพดานไปหลายเท่าตัวตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว 2. กำลังซื้ออิ่มตัว 3. นักลงทุนมองหาทำเลใหม่ แม้วันนี้เกิดสถานการณ์โควิด แต่ราคาที่ดินฟันธงได้เลยว่าไม่ปรับลดลง มีแต่ทรงตัวกับขยับขึ้นเล็กน้อย ไม่หวือหวาเหมือนในอดีต เฉลี่ยปีละ 18-20%
ที่ดินที่มีศักยภาพ เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ไล่ตั้งแต่ส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) ที่มีแผนเปิดให้บริการตลอดเส้น ต้นเดือนธันวาคมนี้ ราคาที่ดินขยับสูงสุด อยู่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว วิ่งไปแตะที่กว่า 1 ล้านบาท ต่อตารางวา โดยจุดประกายมาจาก บริษัทเอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) ซื้อร้านทอง ร้านถ่ายภาพ ขึ้นคอนโดหรูและเนื่องจากทำเลนี้มีการใช้ประโยชน์ที่ดินสูง เป็นแหล่งรวมของคอนโดมิเนียมแบรนด์ดัง อย่างค่ายเอพี เมเจอร์ ปักหมุดรออยู่ก่อนหน้า ยิ่งส่งพลังบวกเกิดการขยายตัวของชุมชนไปตามเส้นทางรถไฟฟ้าและมีแหล่งงานขนาดใหญ่อย่างกระทรวงพลังงาน ปตท. ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนียนมอลล์ ศูนย์กลางการช็อปปิ้ง ประตูสู่กรุงเทพฯ ตอนเหนือ ทำเลศักยภาพ กระจายความเจริญออกสู่พื้นที่ใกล้เคียงด้วยรถไฟฟ้า นอกจากถนนสายสำคัญรอบทิศทางอย่าง พหลโยธิน วิภาวดี-รังสิต หรือแม้กระทั้งประเสริจมนูกิจ วิ่งออกโซนตะวันออกของ กทม.
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ทำเลห้าแยกลาดพร้าว แม้จะมีห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ทว่ายังไม่เป็นแม่เหล็กดึงการพัฒนาที่ดีได้ ราคาที่ดิน 10 ปีก่อน บอกขายหลักแสนบาทต่อตารางวาดูได้จากสวนอาหารจิตโภชนา ลาดพร้าว 13 ไร่ เจ้าของซื้อมาไร่ละ 1.9 แสนบาท เมื่อหลายสิบปีก่อนที่บริเวณนี้ยังเป็นท้องไร่ท้องนา ได้บอกขายให้กับ บริษัท เดวา เรียลเอสเตท จำกัด ในราคาตารางวาละ 1.3 แสนบาท แต่เจ้าของบริษัทไม่ตัดสินใจซื้อ เนื่องจากเป็นที่ดินผืนใหญ่
