
กรุงไทย ประเมิน "ตลาดที่อยู่อาศัย" ใน กทม.และปริมณฑล ปีนี้ หดตัว 27% คาดต้องใช้เวลาอีก 4-5 ปี ในการกลับมาอยู่ระดับเดียวกับก่อนเกิดโควิด-19
ศูนย์วิจัย ธนาคารกรุงไทย ประเมินมูลค่า การโอนกรรมสิทธิ์ ที่อยู่อาศัย ใน กรุงเทพฯและปริมณฑล ในปีนี้เหลือเพียง 4.2 แสนล้านบาท หดตัว 27% จากผลกระทบโควิด-19 คาดมียูนิตเปิดใหม่เพียง 72,000 ยูนิต ลดลงเกือบ 40% โดยต้องใช้เวลา 4-5 ปี ที่ ตลาดที่อยู่อาศัย จะกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 พร้อมเกิด New Normal ในภาคอสังหาริมทรัพย์
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคาร กรุงไทย เปิดเผยว่า ความต้องการซื้อ ที่อยู่อาศัย ปีนี้ ถูกบั่นทอนอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผู้บริโภคไทยได้รับผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดว่า จะหดตัวอย่างรุนแรง (Deep Recession) ถึง 8.8% ส่วนผู้บริโภคต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown ทำให้ไม่สามารถซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในไทยได้
ส่งผลให้ยอดจองเปิดใหม่(Pre-sale) ลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 20% ในไตรมาส 4/2562 มาอยู่ที่ 15% ในไตรมาส1/2563 และมีโอกาสลดต่ำลงเหลือ 12% ในไตรมาส 2/2563 โดยประเมินว่า มูลค่าตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปีนี้จะลดลง 27% จาก 5.7 แสนล้านบาทในปีที่ผ่านมาเหลือ 4.2 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์บ้านจัดสรร 2.4 แสนล้านบาท ติดลบ 24% คอนโดมิเนียม 1.8 แสนล้านบาท ติดลบ 30% ส่งผลให้สต็อกเหลือขายในภาพรวม มีโอกาสขยายตัว 5% ขึ้นไปแตะ 185,000 ยูนิต แม้ผู้พัฒนาอสังหาฯ จะปรับลดการเปิดโครงการใหม่ลงเกือบ 40% ก็ตาม